วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มนุษย์เพื่อนน้อย

จากวัย 26 ปีที่ผ่านมา ... ฉันเพิ่งตรัสรู้นึกได้ ตอนตีหนึ่งนาฬิกานิดหน่อย ของวันที่ 27 ธันวาคม 2552 ว่าตัวเองเป็นคนเพื่อนน้อยมาก ...

ความจริงสิ่งที่คิดว่าเพิ่งรู้นั้น มันควรจะรู้ตั้งแต่สมัยประถมแล้ว (นี่หว่า)

ฉันมานั่งทบทวนเหตุการณ์เสะเทือนอารมณ์ที่ชี้บ่งชัดว่าตัวเองเป็นคนมีเพื่อนน้อย เช่น

1. ในเฟรนด์ชิพจบป.6 เกินครึ่งเล่ม ทุกคนระบุว่า "ติ๊กดีทุกอย่างนะ ยกเว้นลำเอียง กับเป็นทอม" ...
2. ทุกคนในห้องม.1/1 เชื่อว่าบุหรี่ในกระเป๋านักเรียนนั้น เป็นของฉัน ...
3. ฉันเป็นคนเดียวในชั้น ม.4 ที่ออกนอกโรงเรียนในเวลาเรียนได้ โดยไม่ต้องใช้หนังสือออกนอกโรงเรียนเลย ...
4. มีน้องในสีเหลืองจำนวนมาก เข้าใจว่าฉันเป็นประธานสี ...
5. และมีน้องในชมรมจำนวนไม่น้อย เข้าใจว่าฉันได้เป็นประธานชมรมโดยไม่ชอบธรรม ...

และมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ฉันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จึงไม่อยากระบุไว้ให้คนอื่นมาตามด่าทอพ่อแม่ทีหลังได้เมื่อมาอ่านบทความเหล่านี้พบ

แค่ข้อ 1-5 นั้น ก็ลดระดับความน่าคบหาของฉันไปมากโขแล้ว และคนที่ตัดสินใจเช่นนั้น ไม่มีใครรู้เลยว่าทั้งหมดเป็นเรื่อง ไม่จริง!!!

ฉันไม่ได้เป็นทอม
ฉันไม่เคยสูบบุหรี่
ฉันใช้หนังสือออกนอกโรงเรียนเสมอ
ฉันไม่ใช่ประธานสี
ฉันไม่เคยอยากเป็นประธานชมรม
และมีอีกหลายอย่างที่ฉันไม่ได้ทำ ไม่อยากทำ ไม่คิดจะทำ แต่ไม่อยากระบุไว้ให้คนอื่นมาตามด่าทอพ่อแม่ทีหลังได้เมื่อมาอ่านบทความเหล่านี้พบ

ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เหนือสิ่งอื่นใดของฉัน นั่นคือการกลับมามองตัวเอง

เราเป็นอย่างนั้นหรือไม่
ส่วนใด สิ่งไหน ที่เป็นสาเหตุ
ความจริงที่เป็น
สิ่งที่เราคิด
สิ่งที่เราทำ
มันสอดคล้อง ขัดแย้ง ชัดเจน บิดเบือน หรือเลือนลาง แตกต่างกันอย่างไร

แต่มันมักจะมีสิ่งหนึ่งที่แว้บเข้ามาในสมองเสมอนั่นคือ ... แล้วคนอื่นล่ะ ใช้อะไรตัดสินเรา

สายตา?
สิ่งที่เห็น?
ประสบการณ์?
ความเชื่อ?
ความคิด?
หรือ อคติ?

ฉันไม่ดูถูกความคิดเห็นใคร แต่ไม่ถูกใจความใจแคบของคน

ถ้าเห็นคนใส่เสื้อสีแดงแล้วตัวดำ ... เราอาจจะขำ แต่ว่า เสื้อตัวนั้น ของใคร ... ของเขานี่หน่า ด่าเขา นินทาเขา เราเกี่ยวอะไรกับเสื้อ กับร่างกายเขา ...

ถ้าคนเสื้อแดงตัวดำคนนั้น เดินเตะหมา ด่าเด็ก ต่อยคนแก่ ฉันอาจจะเดินเข้าไปห้าม ตักเตือน ในฐานะเพื่อนมนุษย์ แต่ถ้าเขาเดินเฉยๆ จะไปไหนซักที่ แค่มันขัดหูขัดตา ... ฉันไม่มีเหตุผลจะไปว่าใคร

และต่อให้เขาเดินมาตบกะโหลกฉันแรงๆหนึ่งที ฉันคงได้แต่ถามว่า "ตบหัวหนูทำไม"

... ความคิดแบบนี้หรือเปล่า ที่ทำให้ฉันมีเพื่อนน้อยจนถึงทุกวันนี้

ไม่มีความคิดเห็น: